วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

ดอกเฟื่องฟ้า

ดอกเฟื่องฟ้า





อาณาจักร พืช (Plantae)
ส่วน Magnoliophyta
ชั้น Magnoliopsida

อันดับ Caryophyllales
วงศ์ Nyctaginaceae

สกุล Bougainvillea

ชื่อไทย เฟื่องฟ้า
ชื่อสามัญ Bougainvillea
ชื่อวิทยาศาสตร์ Bougainvillea spp.
ตระกูล NYCTAGINACEAE
วงศ์ -
ถิ่นกำเนิด บราซิล
ชื่ออื่นๆ -

ลักษณะโดยทั่วไป

เฟื่องฟ้าเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางประเภทเถาเลื้อย ลำต้นมีความยาวประมาณ 1-10 เมตร มีลำเถาแข็งแรงเลื้อยไปได้ไกล ผิวลำต้นสีเท่าหรือสีน้ำตาลลำต้นมีหนามคมแหลมยาวประมาณ0.51เซนติเมตรติดอยู่เป็นระยะๆลักษณะของทรงพุ่มสามารถตัดแต่ง และบังคับทิศทางการเจริญเติบโตได้ใบเป็นใบเดี่ยวแตกตามเถาลักษณะรูปใข่ปลายใบแหลมโคนใบมนขอบใบเรียบพื้นใบเรียบสีเขียว ขนาดใบกว้าง 2 - 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4-5 เซนติเมคร ดอกออกเป็นช่อตามส่วนยอด มีกลีบดอหรือใบประดับ 3กลีบ ส่วนดอกจะมีดอกเล็กสีขาว กลีบดอกจะมีขนาดและสีสรรแตกต่างกันตามชนิดพันธุ์

การปลูก


การปลูกมี 2 วิธีี

1. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ใช้กระถางทรงสูงขนาด 10 - 16 นิ้ว ใช้ปุ๋ยหรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ : ขุยมะพร้าว : ดินร่วน อัตราอย่างละ 1 ส่วน ผสมดินปลูก ควรเปลี่ยนกระถางปีละครั้ง หรือแล้วแต่ความเหมาะสมของทรงพุ่ม เพราะการเจริญเติบโตของทรงพุ่มโตขึ้น และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป

2.การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนโบราณนิยมปลูกไว้เป็นรั้วบ้านมักทำเป็นซุ้มหรือร้านโดยให้ต้นเฟื่องฟ้า
เลื้อยขึ้นไปตามธรรมชาติขนาดหลุมปลูก30x30x30เซนติเมตรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก:ดินร่วนอัตรา1:2ผสมดินปลูกการปลูกเฟื่อ
ฟ้าทั้งสองวิธีเราสามารถที่จะทำการตัดแต่งทรงพุ่มให้ได้รูปทรงที่เหมาะสมตามความต้องการไม่ให้ลำต้นเลื้อยก็ต้องทำการตัดแต่
ทรงพุ่มเช่นกัน เฟื่องฟ้า

การดูแลรักษา

แสง ชอบแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3 - 5 วัน/ครั้ง
ดิน ดินร่วนซุย ความชุ่มชื้นสม่ำเสมอ
ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4-6 ครั้งหรือใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์
สูตร 15-15-15 อัตรา200-300 กรัม/ต้น ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
การขยายพันธุ์ ปักชำ ตอน การเสียบยอด
โรคและแมลง ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องโรค ส่วนแมลงนั้นจะมีเพลี้ยรบกวนบ้างในบางครั้ง แต่ควรระวังอย่าให้น้ำขังแฉะเพราะจะทำให้รากเน่า
การป้องกันกำจัด ใช้ยาฉีดพ่นโดยใช้ ไดอาชินอน ตามที่ระบุไว้ในฉลากยา

ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่มกึ่งเลื้อย
ขนาด [Size] : ขนาดกลาง
สีดอก [Flower Color] : สีขาว มีกลีบประดับสีขาว
แดง ชมพู บานเย็น และม่วงแดง
ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Time] : ตลอดปี
อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : ปานกลาง
ลักษณะนิสัย [Habitat] : ดินปนทรายระบายน้ำดี
ความชื้น [Moisture] : ต่ำ
แสง [Light] : แดดเต็มวัน

ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มกึ่งเลื้อย อายุหลายปี เลื้อยได้ไกลถึง 10 เมตร ผิวลำต้นสีน้ำตาลหรือ สีเทา ลำต้นมีหนามคมแหลมยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร ติดอยู่เป็นระยะๆ ลักษณะของทรงพุ่มสามารถ ตัดแต่งและบังคับทิศทางการเจริญเติบโตได้ ใบ (Foliage) : ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 4-8 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ ผิวใบด้านบนสีเขียว หรือด่างสีเขียว หรือด่างเหลือง-เขียว
ดอก (Flower) : สีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง กลีบประดับมีทั้งแบบชั้นเดียว และซ้อน รูปไข่ มีสีขาว แดง ชมพู บานเย็น และม่วงแดง มี 3 กลีบขึ้นไป ซ้อนกันเป็นรูปถ้วย ปลายกลีบแหลม โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปหลอด ปลายแผ่แบน ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-3 เซนติเมตร ผล (Fruit) : ผลแห้ง ขนาดเล็ก มี 5 พู
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ดอกสวยมีสีสัน และหลากหลายพันธุ์ ปลูกประดับเป็นซุ้มไม้เลื้อย ปลูกเป็นแปลงในที่สาธารณะ ตัดแต่งทรงพุ่มดูแลรักษาง่ายและทนแล้งได้ดี เมื่ออากาศเย็นจะมี ดอกเต็มต้น ทำเป็นไม้บอนไซ ไม่ควรปลูกใกล้สนามเด็กเล่นเพราะมีหนามแหลม

ไม่มีความคิดเห็น:

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...